ข้อควรรู้ก่อนเล่นหุ้น

ข้อควรรู้ก่อนเล่นหุ้น

หากว่ากันด้วยเรื่องของเงินและการลงทุนแล้ว “การเล่นหุ้น” เป็นช่องทางในการลงทุนที่สามารถทำได้ง่ายมากขึ้นมากกว่าในสมัยอดีต เพียงแค่คลิ๊กเดียวก็สามารถซื้อ-ขายหลักทรัพย์ได้แล้วหล่ะครับ บทความนี้จึงอยากพาท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านไปหาความรู้เกี่ยวกับ “5 ข้อควรรู้ก่อนเล่นหุ้น” ที่จะสอนและบอกเกี่ยวกับพื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนที่จะเริ่มเล่นหุ้น พร้อมกับบอกข้อดีและข้อเสียให้ทุกๆ ท่านได้เอาไว้พิจารณากันครับ

หุ้นคืออะไร?

หากจะให้อธิบายอย่างๆ ง่ายๆ “หุ้น” ก็คือ หลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

5 ข้อควรรู้ก่อนการเล่นหุ้น

1.สำรวจตนเองว่า อยากลงทุนเพราะอะไรกันแน่ ก่อนจะกระโดดเข้าสนามการลงทุน เราอาจต้องสำรวจพื้นฐานของตัวเอง รวมถึงเป้าหมายของตัวเราก่อน เพื่อที่เราจะสามารถหารูปแบบ และวิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น ต้องการลงทุนและสร้างเงินเก็บ 100,000 บาทภายใน 2 ปี, ลงทุนเพื่อสร้าง Passive income (รายได้ที่ไม่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง) ระหว่างที่ยังทำงานประจำหรือลงทุนเพื่อมีเงินปันผล

2. ค้นหสไตล์การลงทุน การเล่นหุ้นในแบบของเรา การเล่นหุ้น อาจจะมีหลายแบบ แต่สามารถแบ่งประเภทนักลงทุนได้ 2 สไตล์หลัก ๆ คือ

●สายลงทุนพื้นฐาน จะเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มองระยะยาว (มากกว่า 1 ปีขึ้นไป) เมื่อจะถือหุ้นระยะยาวก็ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ต้องดูที่พื้นฐานของหุ้นเป็นหลัก (Fundamental)

●สายเก็งกำไร จะเป็นกลุ่มนักลงทุนที่อาจเชื่อว่า ตลาดหุ้น มีจังหวะที่ต้องเข้าซื้อ และขายออกเพื่อทำกำไร ดังนั้นจะเน้นการลงทุนระยะสั้น (น้อยกว่า 1 ปีลงมา) และจะเน้นที่การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical Analysis) โดยสายนี้จะมักให้ความสำคัญกับราคา

ทำให้ผลตอบแทนที่นักลงทุนกลุ่มได้มักจะเป็น “ส่วนต่าง” ในการซื้อหุ้นที่ราคาถูก และขายในช่วงที่ราคาแพงกว่าที่ซื้อมา จุดนี้เรียกว่า Capital Gain

3. การเลือกโบรกเกอร์สำหรับการเทรดสำคัญฉนัย ก่อนจะเทรดหุ้นได้นั้น เราจะต้องทำการเปิดบัญชีหุ้น เราสามารถเปิดกับ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ได้เลย ยิ่งปัจจุบันสามารถเปิดพอร์ตหุ้นออนไลน์ได้ในบางบล.แล้ว สามารถเช็ครายชื่อได้

4. ต้องศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับหุ้นตัวที่เราสนใจ เราจะต้องเรียนรู้มากที่สุด เพราะก่อนจะเข้าซื้อหุ้นสักตัว ต้องทำการบ้าน ทั้งข้อมูลของบริษัทฯ ที่จะเข้าไปซื้อหุ้น เช่น ประเภทธุรกิจ, ภาวะตลาด, โมเดลธุรกิจ, ผลประกอบการย้อนหลัง ฯลฯ รวมถึงติดตามข่าวสารของที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของหุ้นนั้นๆ ว่ามีทิศทาง หรือปัจจัยที่อาจได้รับผลบวก หรือผลกระทบอย่างไรเบื้องต้นสามารถอ่านข้อมูลของหุ้นแต่ละตัวได้ที่ SET เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนซื้อขายหุ้น

5. “ทดลองเล่นหุ้น” ก่อนทำการเทรดจริง หากเรายังไม่แน่ใจว่า ข้อมูล เทคนิค และรูปแบบการลงทุนที่เลือกจะ “ใช่” แบบที่คิดไหม และยังไม่มั่นใจ เราสามารถ “ทดลองเล่นหุ้น” ผ่านการเปิดพอร์ตในเว็บไซด์ Click2win ซึ่งเป็นโครงการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จุดเด่นคือ ทดลองซื้อ ขายหุ้น และอนุพันธ์บนมือถือคล้ายกับ Steaming ที่หลายคนใช้เทรดหุ้นจริงมีเงินทุนจำลองให้พอร์ตละ 5 ล้านบาท (แต่ระบบจะลบข้อมูลพอร์ตทุก 3 เดือน)

ข้อดีและข้อเสียของการเล่นหุ้น

1. มีโอกาสได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในบริษัทชั้นนำของโลก บริษัทดัง ๆ ที่ทำกำไรได้สูงส่วนใหญ่อยู่ในตลาดของต่างประเทศ ยิ่งเป็นหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ก็ยิ่งมีโอกาสผลตอบแทนสูงครับ

2. มีหุ้นดีใหม่ ๆ ที่มีโอกาสเติบโตสูง หากซื้อหุ้นต่างประเทศจะมีโอกาสลงทุนในหุ้นใหม่ ๆ ที่ไทยไม่มี โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม New Economy ที่เน้นไปทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่อย่าง Fintech, E-Commerce, AI, Mobile Applications และ Healthcare เป็นต้น

3. ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำค่อนข้างมาก ขึ้นชื้อว่าเป็นการซื้อหุ้นต่างประเทศ แน่นอนว่าต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง บางตัวขั้นต่ำอยู่ที่หลักหมื่น บางตัวก็หลักแสนไปจนถึงหลักล้าน การลงทุนต่างประเทศจึงถูกจำกัดอยู่กับผู้ที่มีเงินก้อนใหญ่เท่านั้น

4.ต้องยอมรับความเสี่ยงเมื่อค่าเงินผันผวน สมมติเราได้กำไรจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ ณ ขณะนั้นคือช่วงที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงมาก ๆ กลับกลายเป็นว่าเราขาดทุนเมื่อแลกกลับมาเป็นบาท และนี่ถือเป็นความเสี่ยงอันดับต้น ๆ ของการลงทุน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “ข้อควรรู้ก่อนเล่นหุ้น” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในวันนี้ เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ ท่านกันนะครับ

Adrian Stone

Related Posts

Read also x