เทรดหุ้นกับโบรกเกอร์เจ้าไหนดี

เทรดหุ้นกับโบรกเกอร์เจ้าไหนดี

หากว่ากันด้วยเรื่องของการหารายได้เสริมหรือเพิ่มช่องทางในการลงทุนให้กับตนเองในรูปแบบ passive income แล้วหล่ะก็… ต้องมาท่านด้านของการลงทุนถึงจะเหมาะที่สุดเลยหล่ะครับ บทความนี้จึงอยากขอพาทุกๆ ท่านไปหาความรู้เกี่ยวกับ “การเทรดหุ้น” พร้อมกับแนะนำเกี่ยวกับ “เทรดหุ้นกับโบรกเกอร์เจ้าไหนดี” กันครับ  จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันดีกว่า… แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักตลาดหุ้นกันก่อนดีกว่าครับ

ตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดหุ้น คืออะไร?

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการซื้อขายหลักทรัพย์และให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยไม่นำผลกำไรมาแบ่งปันกัน โดยมีบทบาทในการส่งเสริมการออมและการระดมเงินทุนระยะยาว เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในปัจจุบันดำเนินงานของ SET อยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีการดำเนินงานหลัก ได้แก่ การรับหลักทรัพย์จดทะเบียนและดูแลการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน การซื้อขายหลักทรัพย์และการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ การกำกับดูแลบริษัทสมาชิกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลอดจนถึงการเผยแพร่ข้อมูลและการส่งเสริมความรู้ให้แก่ผู้ลงทุน

แล้วโบรกเกอร์คืออะไร?

บริษทหลักทรัพย์หรือโบรกเกอร์ (Broker)คอื บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจการเป็รนายหน้า

ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์และเข้าเป็นบริษัทสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อย ทำให้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์เข้าสู่ระบบซื้อขายหลักทรัพย์ต่างๆ ได้โดยตรง ซึ่งกล่าวได้ว่า “โบรเกอร์ไม่ได้เป็นเพียงคนกลางในการซื้อขายหลักทรัพย์ให้กับคุณเพียงเท่านั้น แต่โยรเกอร์จะต้องรับผิดชอบดูแลพร้อมกับให้บริการต่างๆ กับคุณ อีกทั้งยังคอยแนะนำในการลงทุนที่น่าสนใจให้กับคุณ ผู้เป็นลูกค้า” อีกด้วยครับ

5 บริษัทโบรเกอร์น่าลงทุนและมี % Market สูง!!

●บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKPS)  มาร์เก็ตแชร์  10.91% มูลค่ารวม 1,298,371.06 ล้านบาท

●บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI) มาร์เก็ตแชร์  6.91%  มูลค่ารวม 822,516.18 ล้านบาท

●บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) (KINGSFORD)  มาร์เก็ตแชร์  5.82% มูลค่ารวม 692,065.99 ล้านบาท

●บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  มาร์เก็ตแชร์  5.63% มูลค่ารวม 669,825.32 ล้านบาท

●บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (FSS)  มูลค่า มาร์เก็ตแชร์  5.62% มูลค่ารวม 669,288.76 ล้านบาท

คุณสมบัติของโบรเกอร์ที่ดี

●ต้องเป็นพี่เลี้ยงที่ดี แนะนำตั้งแต่ขั้นตอนพื้นฐานจนถึงเทคนิคขั้นสูง

● มีความพร้อมในด้านข้อมูล ข่าวสาร วิเคราะห์สถานการณ์ได้ทันต่อเหตุการณ์

● ปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ ขายของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

●ฐานะทางการเงินมั่นคงและน่าเชื่อถือ

● สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอในการให้บริการ

●มีระบบเอกสารและบริการหลังการซื้อขายที่ดี

ข้อดีของการลงทุนหุ้นทั้งในและต่างประเทศ

3 ข้อดีของการซื้อหุ้นต่างประเทศ

มีโอกาสได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในบริษัทชั้นนำของโลก บริษัทดัง ๆ ที่ทำกำไรได้สูงส่วนใหญ่อยู่ในตลาดของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Apple, Tencent, Tesla ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณซื้อหุ้นต่างประเทศก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนดีไปด้วย ยิ่งในช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อนด้วยแล้ว สามารถแลกเงินสกุลต่างประเทศเป็นเงินบาทได้มากขึ้น ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่น่าลงทุนเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ครับ

2.มีหุ้นดีใหม่ ๆ ที่มีโอกาสเติบโตสูง หากซื้อหุ้นต่างประเทศจะมีโอกาสลงทุนในหุ้นใหม่ ๆ ที่ไทยไม่มี โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม New Economy ที่เน้นไปทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ในขณะที่หุ้นไทยยังเป็นกลุ่ม Old Economy เสียส่วนใหญ่

3.ช่วยกระจายความเสี่ยง ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันหนึ่งเราอาจต้องประสบปัญหาเงินเฟ้อที่เงินกลายเป็นกระดาษไม่มีค่า แน่นอนว่าถ้าลงทุนในประเทศเดียว 100% โอกาสเจ็บตัวย่อมมากกว่าคนที่แบ่งไปลงทุนหุ้นต่างประเทศ 50% อยู่แล้ว ดังนั้น การซื้อหุ้นต่างประเทศจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยกระจายความเสี่ยงได้

และนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับ “การเทรดหุ้น” พร้อมกับแนะนำเกี่ยวกับ “เทรดหุ้นกับโบรกเกอร์เจ้าไหนดี” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในวันนี้ครับ เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ ท่านนะครับ สุดท้ายนี้อยากจะฝากทุกๆ ท่านไว้ว่า “ทุกการลงทุน มีความเสี่ยง” ครับ

Adrian Stone

Related Posts

Read also x